วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้

    อารี พันธ์มณี (2534:88-89) ได้รวบรวมองค์ประกอบการเรียนรู้ของนักจิตวิยาไว้ดังนี้
             ดอลลาร์ด และมิลเลอร์ (Dollard and Miller) กล่าวว่า การเรียนรู้ประกอบด้วยสิ่งต่างๆดังนี้
                 1. แรงขับ (Drive) เกิดขึ้นเมื่ออินทรีย์ (Organism) ขาดสมดุล เช่น ขาดอาหาร ขาดน้ำ ขาดการพักผ่อน ภาวะเหล่านี้จะกระตุ้นให้อินทรีย์แสดงพฤติกรรมเพื่อปรับให้อินทรีย์อยู่ในสภาสมดุลอย่างเดิม แรงขับมีอยู่ 2 ประเภทคือ
                     1.1 แรงขับพื้นฐาน (Primary Drive) เกิดเนื่องจากความต้องการที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต เป็นความต้องการทางร่างกายต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมๆกับการมีชีวิตของคน
                     1.2 แรงขับที่เกิดจากการเรียนรู้ (Secondary Drive) เกิดขึ้นภายหลังเป็นความต้องการทางสังคม เช่น ความรัก ฐานะทางสังคม ความมั่นคงปลอดภัย
                 2. สิ่งเร้า (stimulus) เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้อินทรีย์แสดงกิจกรรมโต้ตอบออกมา เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมตอบสนองของร่างกาย
                 3. การตอบสนอง (Response) เป็นพฤติกรรมหรือกิจกรรมที่อินทรีย์แสดงออกเมื่อมีสิ่งเร้าไปเร้า
                 4. การเสริมแรง (Reinforcement) เป็นการทำให้สิ่งเร้าและการตอบสนองมีความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น เช่น เมื่อนักเรียนทำเลขถูกก็เสริมแรงโดยให้รางวัล การเสริมแรงนี้จะทำให้นักเรียนอยากเรียน(ทำเลข)ในคราวต่อไป
              ชูชีพ อ่อนโคกสูง กล่าวว่า การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้จะต้องมีองค์ประกอบพื้นฐานอย่างน้อยที่สุด 4 ประการด้วยกัน ดังนี้
                 1. แรงจูงใจ (Motive) ในขณะที่มีชีวิตอยู่ ร่างกายย่อมมีความต้องการต่างๆ เมื่อใดที่ร่างกายเกิดความต้องการหรือเกิดความไม่สมดุลขึ้น จะมีแรงขับ (Drive) หรือแรงจูงใจ (Motive) เกิดขึ้นภายในอินทรีย์ผลักดันให้สิ่งที่หายไปนั้นมาให้ร่างกายอยู่ในภาวะพอดี แรงจูงใจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการเรียนรู้ เพราะเป็นตัวจักรสำคัญหรือเป็นต้นตอที่แท้จริงของพฤติกรรม
                 2. สิ่งจูงใจ (Incentive) สิ่งจูงใจเป็นสิ่งที่ลดความเครียด และนำไปสู่ความพอใจ นักจิตวิทยาเชื่อว่า สิ่งจูงใจจะเป็นศูนย์กลางหรือหัวใจของการเรียนรู้เขาถือว่าแรงจูงใจซึ่งถือว่าเป็นภาวะภายในของอินทรีย์และกิจกรรมต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นจากสิ่งจูงใจทั้งสิ้น
                3. อุปสรรค (A Barrier or Block) นับเป็นพื้นฐานอีกประการหนึ่งของการเรียนรู้ เพราะอุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางย่อมทำให้เกิดปัญหา การที่ผู้เรียนเกิดปัญหาจะทำให้ผู้เรียนพยายามทำซ้ำๆ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อที่จะฟันฝ่าอุปสรรคนั้นไปสู่เป้าหมายให้ได้
                4. กิจกรรม (Activity) กิจกรรมหรือการตอบสนองของอินทรีย์ เป็นส่วนที่จะทำให้เราทราบว่าใครเกิดการเรียนรู้หรือไม่เพียงใด ช้าหรือเร็วอย่างไร และเป็นสิ่งที่ใช้อ้างอิง (Infer) ไปถึงความรู้สึกนึกคิดทางจิตใจที่ซ่อนเร้นอยู่ เราจะสังเกตเห็นว่าคนเรามักจะชอบประกอบกิจกรรมที่นำความสำเร็จ หรือความพอใจมาให้ซ้ำๆอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่เจอปัญหาใหม่ๆ ส่วนกิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ไม่เคยนำความสำเร็จมาให้นั้นมักจะหลีกเลี่ยง
   กมลรัตน์ หล้าสุวงษ์ (2524:133) ได้รวบรวมองค์ประกอบการเรียนรู้ของนักจิตวิทยาไว้ดังนี้
               กาเย่ (Gagne) กล่าวว่าองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบคือ
                1. ผู้เรียน (The learner) ซึ่งประกอบด้วยอวัยวะรับสัมผัส 5 ชนิด (คือ หู ตา จมูก ลิ้น และกาย) ระบบประสาทส่วนกลาง (A central nervous system) และกล้ามเนื้อ (Muscles)
                2. สิ่งเร้า (Stimulus) หรือสถานการณ์ต่างๆ(a stimulus situation) สิ่งเร้าหมายถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัวผู้เรียนสำหรับสถานการณ์ต่างๆที่เป็นสิ่งเร้าได้แก่ สถานการณ์หลายๆสถานะที่เกิดขึ้นรอบตัวผู้เรียน
                3. การตอบสนอง (Response) เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับสิ่งเร้า เช่น น.ส. สมศรีห่อริมฝีปาก เมื่อเห็นมะนาว ในที่นี้มะนาวเป็นสิ่งเร้า การห่อปากคือการตอบสนองเพราะเรียนรู้ว่ามะนาวเปรี้ยว ฯลฯ            
    อัชรา เอิบสุขสิริ(2556:) ได้รวบรวมองค์ประกอบการเรียนรู้ของสพรินทอลล์และและสพรินทอลล์ไว้ว่าการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบ 4 อย่างได้แก่
               1. ลักษณะของผู้เรียนอันประกอบด้วยลักษณะทางกายภาพ จิตใจ สติปัญญา จริยธรรมค่านิยม แรงจูงใจ พฤติกรรมส่วนตัว พฤติกรรมกลุ่ม ความต้องการพิเศษ เพศ และวัฒนธรรมที่ติดตัวมา
               2. ลักษณะของผู้สอนอันประกอบด้วยเจตคติต่อการเรียนรู้ เจตคติต่อผู้เรียน เจตคติต่อตนเอง และความเข้าใจในงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
               3. กลยุทธ์ในการสอนอันประกอบด้วยการนำทฤษฎีการเรียนรู้มาปฏิบัติจริง วิธีสอนและต้นแบบ วิธีสอนเฉพาะรายบุคคล แผนการสอน เทคนิคที่หลากหลาย วินัยของผู้เรียน การใช้แบบทดสอบ
               4. เนื้อหาวิชาอันประกอบด้วยโครงสร้างที่สำคัญ แนวคิดพื้นฐานของเนื้อหาที่จะสอน ลำดับของเนื้อหา การเลือกเนื้อหาในการสอน ระดับความสำคัญของเนื้อหาแต่ละส่วน ฯลฯ

สรุป
     จากการศึกองค์ประกอบของการเรียนรู้สามารถนำมาสรุปได้ว่าการเรียนรู้นั้นจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก ได้แก่ ผู้เรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้ ผู้สอนมีความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ จัดเทคนิคและเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เรียนเพื่อนเป็นแรงจูงใจให้กับผู้เรียนและสร้างสิ่งสูงใจเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความพอใจที่จะเรียนรู้มากขึ้น โดยใช้สิ่งเร้าที่อยู่รอบๆตัวผู้เรียน การตอบสนองหรือการจัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนเพื่อเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้า และการเสริมแรงเพื่อทำให้สิ่งเร้าและการตอบสนองมีความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจะต้องมีการสร้างอุปสรรคให้กับผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้รู้จักการพยามยามและสนใจที่จะทำซ้ำๆเพื่อที่จะผ่านอุปสรรคไปให้ได้

ที่มา
กมลรัตน์ หล้าสุวงษ์.(2524).จิตวิทยาการศึกษา.กรุงเทพมหานคร:มหามงกุฏราชวิทยาลัย.
อัชรา เอิบสุขสิริ.(2556).จิตวิยาสำหรับครู.กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อารี พันธ์มณี.(2534).จิตวิทยาการเรียนการสอน.กรุงเทพฯ:บริษัท ต้นอ้อ จำกัด.
   
         

1 ความคิดเห็น:

  1. Easy "water hack" burns 2 lbs OVERNIGHT

    More than 160,000 women and men are using a simple and SECRET "liquids hack" to lose 2 lbs every night as they sleep.

    It's simple and it works every time.

    Just follow these easy step:

    1) Hold a drinking glass and fill it up half the way

    2) Then use this weight loss HACK

    you'll be 2 lbs thinner the next day!

    ตอบลบ